เข้าใจกฎ The 7-38-55 Rule จบปัญหาการสื่อสารที่ไม่เคลียร์

Last updated: 12 ธ.ค. 2568  |  44 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เข้าใจกฎ The 7-38-55 Rule จบปัญหาการสื่อสารที่ไม่เคลียร์ ในองค์กร

“กฎ The 7-38-55 Rule” แบบง่าย ใช้ได้จริงในองค์กรยุคใหม่

ในโลกของธุรกิจยุคปัจจุบัน “การสื่อสาร” ไม่ได้เป็นเพียงการพูดหรือการส่งข้อมูลจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น แต่คือหัวใจสำคัญของความเข้าใจ ความร่วมมือ และความสำเร็จขององค์กร หากการสื่อสารคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อย อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด ความขัดแย้ง หรือความเสียหายที่ไม่จำเป็น



S-MILES Group ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจและการบริการแบบครบวงจร ที่มีบริษัทในเครือมากกว่า 10 บริษัท ยิ่งเติบโตและมีความหลากหลายของทีมงานมากเท่าไร “การสื่อสารที่ชัดเจน” ยิ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่องค์กรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

หนึ่งในแนวคิดด้านการสื่อสารที่ถูกพูดถึงและนำมาใช้ในองค์กรชั้นนำทั่วโลก คือ The 7-38-55 Rule มีที่มาจากงานวิจัยด้านจิตวิทยาการสื่อสารของนักวิชาการชื่อ ดร. อัลเบิร์ต เมห์ราเบียน (Dr. Albert Mehrabian) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา จาก University of California, Los Angeles (UCLA) ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 ซึ่งช่วยอธิบายว่า เหตุใดบางครั้งเราพูดแล้วทำไมอีกฝ่ายกลับเข้าใจไม่ตรงกัน



The 7-38-55 Rule คืออะไร?

The 7-38-55 Rule เป็นแนวคิดด้านการสื่อสารซึ่งอธิบายสัดส่วนของ “ผลกระทบจากการสื่อสาร” เมื่อมีการสื่อสารเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก หรือทัศนคติ หลักการนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

  • 7% มาจาก “คำพูด” (Words) เช่น ประโยค คำอธิบาย หรือข้อมูลที่ต้องการสื่อออกไป
  • 38% มาจาก “น้ำเสียง” (Tone of Voice) น้ำเสียงสะท้อนอารมณ์ ความตั้งใจ และทัศนคติของผู้พูด เช่น สุภาพหรือห้วน, เป็นมิตรหรือกดดัน, จริงใจหรือประชดประชัน ในที่ทำงาน น้ำเสียงสามารถเปลี่ยนความหมายของประโยคเดียวกันได้อย่างสิ้นเชิง
  • 55% มาจาก “ภาษากาย” (Body Language) ภาษากายคือสิ่งที่สื่อสารโดยไม่ต้องใช้คำพูด เช่น
    สีหน้า, แววตา, ท่าทาง, การยืน นั่ง หรือการเคลื่อนไหว ภาษากายเป็นสิ่งที่มนุษย์รับรู้ได้เร็วที่สุด และมักถูกเชื่อถือมากกว่าคำพูดเสมอ

กล่าวคือ เวลาที่เราสื่อสาร โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกหรือเจตนา คนฟังจะไม่ได้รับสารจาก “คำพูด” เพียงอย่างเดียว แต่จะตีความจากน้ำเสียงและภาษากายเป็นหลัก



ทำไม The 7-38-55 Rule ถึงสำคัญกับองค์กรขนาดใหญ่

สำหรับองค์กรที่มีหลายธุรกิจ หลายทีม และหลายระดับการทำงานอย่าง S-MILES Group การสื่อสารที่ไม่ชัดเจนอาจส่งผลเป็นลูกโซ่ เช่น

  • งานผิดพลาดจากการเข้าใจไม่ตรงกัน
  • ความสัมพันธ์ในทีมตึงเครียด
  • ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
  • ภาพลักษณ์องค์กรเสียหายเมื่อต้องสื่อสารกับลูกค้าหรือคู่ค้า

การเข้าใจ The 7-38-55 Rule ช่วยให้ผู้บริหารและพนักงานตระหนักว่า “การสื่อสารที่ดี ไม่ได้อยู่ที่พูดเก่ง แต่อยู่ที่สื่อสารให้ตรงกัน”


วิธีนำ The 7-38-55 Rule ไปใช้จริงในที่ทำงาน

1. เลือกคำพูดให้ชัด แต่ต้องสอดคล้องกับน้ำเสียง
อย่าพูดคำเชิงบวกด้วยน้ำเสียงลบ เช่น การให้ Feedback ควรใช้คำสุภาพ น้ำเสียงเป็นมิตร เพื่อให้ผู้ฟังเปิดใจรับ

2. ใส่ใจน้ำเสียง โดยเฉพาะการสื่อสารออนไลน์
แม้การประชุมออนไลน์หรือการโทรศัพท์จะไม่เห็นภาษากายทั้งหมด แต่น้ำเสียงยังคงมีผลอย่างมาก การพูดช้า ชัด และเป็นมิตร ช่วยลดความเข้าใจผิดได้อย่างมาก

3. ใช้ภาษากายให้สอดคล้องกับสิ่งที่พูด
การสบตา การพยักหน้า หรือท่าทางเปิดกว้าง ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในทีม

4. หากเป็นเรื่องสำคัญ อย่าพึ่งข้อความเพียงอย่างเดียว
อีเมลหรือแชตเหมาะกับข้อมูล แต่เรื่องอารมณ์ การตัดสินใจ หรือความขัดแย้ง ควรใช้การพูดคุยโดยตรงเสมอ



สรุป: สื่อสารให้ชัด คือรากฐานของความสำเร็จองค์กร

The 7-38-55 Rule ไม่ได้หมายความว่า “คำพูดไม่สำคัญ” แต่เป็นการเตือนให้เราเข้าใจว่า การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ต้องสอดคล้องกันทั้งคำพูด น้ำเสียง และภาษากาย

สำหรับ S-MILES Group ที่มุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในทุกกลุ่มธุรกิจ การสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่ชัดเจน เข้าใจง่าย และเคารพซึ่งกันและกัน คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้องค์กรเดินหน้าไปพร้อมกันได้อย่างมั่นคง

หากทุกคนในองค์กรเข้าใจหลักการนี้ ปัญหาการสื่อสารที่ไม่เคลียร์ จะไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นโอกาสในการพัฒนาทีม และยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้